เจาะลึก ทุกรายละเอียดการสอบ IELTS !
IELTS คืออะไร?
IELTS (ไอเอล) ย่อมาจาก International English Language Testing System เป็นการทดสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษที่เป็นที่ยอมรับในมากกว่า 10,000 องค์กร ทั้งสถานศึกษา บริษัทนายจ้าง องค์กรทางวิชาชีพ และ
รัฐบาล ใน 140 ประเทศทั่วโลก
คณะที่ใช้ผลคะแนน IELTS เป็นส่วนประกอบ หรือ นำไปเป็นสัดส่วนในการพิจารณา
- หลักสูตรนานาชาติทุกหลักสูตร ของประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก (เน้นประเทศในยุโรป/ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์)
- ใช้ยื่นในระบบ TCAS รอบ 1 ของหลักสูตรภาคไทยหลายคณะ (รวมทั้งคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ/ศิริราช/รามาฯ)
- ระดับปริญญาโท (บัณฑิตศึกษา) ขึ้นไปทุกสาขา ของมหาวิทยาลัยในไทย และต่างประเทศ
รูปแบบในการสอบ IELTS
การทดสอบ IELTS เป็นการวัดทักษะทางภาษาอังกฤษ
โดยจะแบ่งออกเป็น 4 ทักษะ คือ Listening, Speaking, Reading และ Writing ซึ่งจะแบ่งการทดสอบเป็น 2 แบบ ดังนี้
1. IELTS Academic (เพื่อการศึกษาต่อ)
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ใช้ในการสมัครเรียนต่อมหาลัยทั้งในไทยและต่างประเทศ
IELTS Academic คือ การสอบวัดระดับทางวิชาการ เพื่อเป็นทดสอบความพร้อมให้สำหรับผู้ที่อยากสมัครเข้ามหาวิทยาลัยและสถาบันต่างๆ ในต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร โดยจะเป็นการสอบเพื่อเตรียมตัวเข้าศึกษาต่อในทุกๆ สาขาของระดับอุดมศึกษา ทั้งปริญญาตรี และปริญญาโท
2. IELTS General Training (เพื่อการฝึกอบรม)
สำหรับคนที่ต้องการเรียนต่อในระดับต่ำกว่าปริญญาตรี, ต้องการย้ายถิ่นฐาน , ทำงานในต่างประเทศ
ที่ใช้ภาษาอังกฤษ จะวัดความรู้ภาษาอังกฤษในระดับพื้นฐาน
IELTS General Training คือการสอบวัดระดับเพื่อการอบรม สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับที่ต่ำกว่าระดับปริญญา และสำหรับผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐาน หรือทำงานในต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร ซึ่งโดยทั่วไปแล้วข้อสอบจะสามารถวัดระดับพื้นฐานได้เท่านั้น และจะไม่ซับซ้อนเหมือนกับข้อสอบทางวิชาการเพื่อศึกษาต่อแบบ Academic
สำหรับตัวข้อสอบทั้งสองแบบนี้จะมีส่วนที่เหมือนกันนั่นก็คือส่วน Listening และ Speaking แต่จะไม่เหมือนกันในส่วนของ Reading และ Writing
ทำไมต้องสอบ IELTS
การทดสอบไอเอล ใช้เพื่อประเมินความสามารถทางด้านภาษาของผู้ที่มีความต้องการอยากจะไปศึกษาต่อหรืออบรมที่ต่างประเทศ
ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร
เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ เป็นต้น
ลักษณะของข้อสอบ IELTS
การสอบจะแบ่งการทดสอบออกเป็นสองช่วง ช่วงเช้าจะเป็นการสอบในส่วนข้อเขียน
โดยจะใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งจะแบ่งเป็นการทดสอบการอ่าน (Reading) 1 ชั่วโมง,
การเขียน (Writing) 1 ชั่วโมง และการฟัง (Listening) 30 นาที
ส่วนในช่วงบ่ายจะเป็นการทดสอบการสัมภาษณ์รายบุคคล
จะใช้เวลาคนละประมาณ 10-15 นาที โดยจะจัดสอบครั้งละ 25-26 คน
PART ในการสอบ
LISTENING 30 นาที
ทดสอบการฟัง (Listening) ใช้เวลา 30 นาที กับคำถามทั้งหมด 40 ข้อ มีทั้งหมด 4 ส่วน ซึ่งสองส่วนแรกจะเน้นในเรื่องของการสนทนาในชีวิตประจำวันระหว่าง
คนสองคน สองส่วนสุดท้ายจะเน้นไปในเรื่องของสถานการณ์จำลอง
โดยบทสนทนาจะเกี่ยวกับวิชาการหรือการศึกษา
ข้อสอบจะเริ่มจากง่ายไปยาก เช่น บทสนทนาแรกเป็นการพูดโทรศัพท์ บทสนทนาที่สองเป็นการสั่งอาหาร ไปจนถึงท้ายๆ เป็นการบรรยายเลคเชอร์สั้นๆ ในห้องเรียน หรือการปรึกษางานกลุ่มระหว่างนักเรียน
- คำถาม มีได้ตั้งแต่ ถามเบอร์โทรศัพท์ เลขที่บ้าน ชื่อถนน เมนูอาหารโดยเป็นการฟังไปด้วยตอบไปด้วย ไม่ใช่ฟังทั้งหมดแล้วมาตอบแบบ TOEFL
- คำตอบ เป็นแบบเขียนตอบทั้งหมด อาจจะมีเติมคำในรูปภาพหรือตาราง เติมคำในประโยค เรียงลำดับ หรือแบบปรนัยด้วย
READING 60 นาที
ทดสอบการอ่าน (Reading) ใช้เวลา 60 นาที โดยข้อสอบจะมีเรื่องสั้นให้อ่าน 3 เรื่อง
ซึ่งเนื้อหาจะมาจากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือหนังสือต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนี้จะมีเนื้อหาเกี่ยว
กับการแสดงความคิดเห็น และอาจจะเป็นคำถามจากเนื้อหาที่เราได้อ่านมานั่นเอง
โจทย์ที่ออกบ่อยที่สุดคือ True, False, Not Given เป็นโจทย์วัดกึ๋นคนเรียนภาษาอังกฤษตัวฉกาจจริงๆ เพราะนอกจากจะต้องดูว่าเราอ่านเข้าใจไหม เรายังต้องสังเกตอีกว่าข้อมูลชิ้นไหนไม่ได้โดนกล่าวถึงในบทความบ้าง
WRITING 60 นาที
จะแบ่งออกเป็น 2 เรื่อง ให้เวลา 60 นาที คือการเขียนในลักษณะ เรื่องที่สอง คือ การ
- เรื่องแรก อธิบายข้อมูลที่ให้มาในรูปแบบกราฟ ตาราง แผนผัง เราจะต้องมีการเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ที่เด่นๆ โดยที่ต้องเขียนอย่างน้อย 150 คำเป็นอย่างต่ำ
แนะนำว่าไม่ควรใช้เวลาเกิน 20 นาที
ทดสอบการเขียน (Writing) ซึ่งการเขียนในการสอบแบบ
Academic
จะให้เวลาในการทำ 60 นาที และมีทั้งหมดสองส่วน ซึ่งในส่วนแรกคุณต้องเขียนเกี่ยวกับ ไดอะแกรม หรือตาราง รวมถึงการจัดลำดับเหตุการณ์ก่อนหลัง
โดยการทดสอบทั้งหมดนี้จะเป็นการวัดระดับความสามารถในการจัดระเบียบข้อมูล
และการอธิบายเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ นั่นเอง
- เรื่องสอง เขียนเรียงความหรือรายงานอย่างเป็นทางการ และเป็นการแสดงความคิดเห็น การหาทางออก ของปัญหาหรือวิจารณ์หัวข้อที่ให้มา การเปรียบเทียบทางเลือก หรือ การโต้แย้งในประเด็นต่างๆ โดยต้องเขียนอย่างน้อย 250 คำ
ไม่ควรใช้เวลามากกว่า 40 นาที
ส่วนการทดสอบเขียนในการสอบแบบ
General Training จะมีทั้งหมดสองส่วน
ซึ่งในส่วนแรกจะมีลักษณะเป็นจดหมายที่มีข้อมูลหรืออธิบายสถานการณ์ต่างๆ มาให้
และให้เราเขียนตอบ ซึ่งในส่วนนี้จะสามารถวัดความสามารถในการสนทนาโต้ตอบได้
เป็นอย่างดี และส่วนที่สองจะเป็นการแสดงทัศนคติของผู้สอบ โดยจะมีหัวข้อมาให้
และให้คุณเขียนแสดงความคิดเห็น ซึ่งในส่วนนี้สามารถวัดความสามารถในเรื่อง
ของการวิเคราะห์ข้อมูล การเสนอความคิดเห็นและแนวทางการแก้ปัญหาของผู้สอบได้เป็นอย่างดี
SPEAKING 10-15 นาที
ทดสอบการพูด (Speaking) ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที โดยจะเป็นการสัมภาษณ์ระหว่างผู้สอบและเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นการทดสอบความสามารถในการสื่อสาร
ภาษาอังกฤษ ซึ่งการทดสอบจะแบ่งเป็นสามส่วน ดังนี้
แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
- ส่วนที่ 1 การพูดคุยเรื่องทั่วไป การใช้ชีวิตประจำวัน
เป็นส่วนที่ง่ายสุด คุยสบายๆ เช่นถามว่าไปกินอะไรมา ชอบทำงานอดิเรกอะไร และจะมี key question ที่นำไปสู่การสอบส่วนที่สอง
ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
- ส่วนที่ 2 กรรมการจะมีเวลาให้เตรียมตัวก่อนพูด 1 นาที โดยจะมีบัตรคำถามมาให้ และจะให้เราพูดคนเดียวประมาณ 3-4 นาที
คำถามอาจจะต่อเนื่องจากคำถามท้ายๆ ของส่วนแรก เช่นการให้บรรยายการไปเที่ยวที่ประทับใจ ไปกับใคร เมื่อไหร่
ให้เวลาคิด 1 นาที และเวลาตอบประมาณ 2 นาที
- ส่วนที่ 3 มีลักษณะคล้ายกับการพูดโต้ตอบกันในหัวข้อที่ได้จากส่วนที่สอง
เป็นการถกกันระหว่างผู้ถามกับผู้เข้าสอบ หัวข้ออาจจะยากขึ้นมา เช่น เรื่องปัญหาการรักษาพื้นที่สงวน หรือประเด็นที่มีการออกความเห็น
ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
การวัดระดับผล IELTS
คะแนน IELTS จะมีอยู่ 9 ระดับ ลักษณะคะแนนจะเริ่มจาก 0.0 – 9.0 (มีการนับครึ่งคะแนน 0.5 ด้วย)
การสอบไอเอลมีระดับผลคะแนน 9 ระดับจากสูงไปต่ำ ซึ่งในแต่ละระดับจะบ่งบอกถึงความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษทั้ง 4 ทักษะ โดยผลคะแนนสอบจะออกมาหลังจากการสอบประมาณ 5 วัน ซึ่งคุณสามารถเก็บผลสอบไว้ได้นาน 2 ปี
และจะไม่มีการแจ้งผลสอบทางโทรศัพท์ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม
ราคาค่าสมัครสอบ IELTS
- IELTS on Computer : 7,500 บาท
- IELTS Regular : 6,900 บาท
- IELTS for UKVI : 9,009 บาท
- IELTS Life Skills : 6,757 บาท