เมนู
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
โปรโมชัน
คอร์สบุฟเฟต์
ม.ปลาย
ติวเนื้อหา ม.ปลาย
TGAT
TPAT
A-Level
O-NET
สอบอินเตอร์
แพทย์ กสพท
รวมวิชาเฉพาะ
คอร์สติวสรุป
ม.ต้น
ติวเนื้อหา ม.ต้น
สอบเข้า รร.ดัง
ติวติดเตรียมอุดม
TOEIC
สอบราชการ
ติวเตอร์
ติวเตอร์
สถาบัน
The X Tutor
รีวิวคอร์ส
เทคนิคการสอบ
ช่วยเหลือ
ขั้นตอนการสั่งซื้อ
วิธีเข้าเรียน
ติดต่อเรา
แจ้งการชำระเงิน
คอร์สของฉัน
เข้าสู่ระบบ
|
สมัครใช้งาน
ช่วยเหลือ
ขั้นตอนการสั่งซื้อ
วิธีเข้าเรียน
ติดต่อเรา
โปรโมชัน
ม.ปลาย
ติวเนื้อหา ม.ปลาย
TGAT
TPAT
A-Level
O-NET
สอบอินเตอร์
แพทย์ กสพท
รวมวิชาเฉพาะ
คอร์สติวสรุป
ม.ต้น
ติวเนื้อหา ม.ต้น
สอบเข้า รร.ดัง
ติวติดเตรียมอุดม
TOEIC
สอบราชการ
ติวเตอร์
ติวเตอร์
สถาบัน
The X Tutor
รีวิวคอร์ส
เทคนิคการสอบ
แจ้งการชำระเงิน
คอร์สของฉัน
บทความ
สังคมสงเคราะห์ กับชีวิตประจำวัน
01 ต.ค. 61 10:50 น.
22,442 ครั้ง
พี่อยากตั้งคำถามหนึ่งกับคุณผู้อ่านว่า
“ในความคิดของคุณ…คุณเข้าใจกับคำว่าสังคมสงเคราะห์อย่างไรบ้าง”
จากที่เคยกล่าวไว้ในหลายตอนที่ผ่านมา ทั้งในเรื่อง
ภาพจำ
ความเข้าใจ
และ
สิ่งที่สามารถสัมผัสได้ในวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ที่พี่ให้นิยามความหมายว่า
“นักสังคมสงเคราะห์เปรียบเสมือน “วิศวกรทางสังคม”
ที่คอยออกแบบ ติดตาม และ ให้ความช่วยเหลือประชาชนทั้งในยามสุขและยามทุกข์ภายใต้เครื่องมือที่มีอยู่คือ “สวัสดิการสังคม” และกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้อง
พี่เชื่อว่าจากบทความตอนที่ผ่านๆมา ผู้อ่านหลายคนคงเริ่มเข้าใจความหมายและรูปแบบการทำงานภายใต้กระบวนการสังคมสงเคราะห์ที่มีความสัมพันธ์ทั้งในเชิงปัจเจกบุคคลและเชิงนโยบายที่มีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องและสนองความต้องการของประชาชนให้ได้มากที่สุด แม้สิ่งที่จัดสรรและดำเนินอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการรูปแบบต่างๆเช่น เงินสงเคราะห์ สิทธิ์การรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของรัฐ หรือ เงินอุดหนุนต่างๆจะสามารถช่วยเหลือคนได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนได้ แต่ทว่า … เป็นสิ่งที่รัฐต้องทำเพื่อให้เป็น
“หลักประกัน”
และ
“กำแพง”
ที่ให้คนพักพิงได้ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะต้องการหรือไม่
จากภาพดังกล่าว พี่อยากให้คุณผู้อ่านได้คิดตามจากคำถามที่พี่ตั้งไว้ในตอนต้น พี่เชื่อว่าจากคำถามดังกล่าวอาจจะเริ่มเห็นคำตอบกันบ้างแล้วว่า สังคมสงเคราะห์มีความสัมพันธ์กับชีวิตผู้คนอย่างไรโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องนิยามเฉพาะกลุ่มว่า
“เป็นสิ่งที่สนองความต้องการเฉพาะคนยากจน”
เพราะงานสังคมสงเคราะห์ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือคนยากจนเท่านั้น แต่ทุกคนล้วนสามารถที่จะเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานรวมถึงสิทธิต่างๆที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันได้ตามที่กฎหมายระบุ แม้ว่าความช่วยเหลือหรือรูปแบบที่เกิดขึ้นนั้นจะถูกใจหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นงานสังคมสงเคราะห์ไม่ได้เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์แค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพียงอย่างเดียว เพียงแค่ว่า
ภาพจำ
และ
คำนิยาม
ที่ถูกส่งต่อจากอดีตสู่ปัจจุบันยังฝังลึกในความรู้สึกและค่านิยมที่มองภาพลักษณ์ของคำว่าสังคมสงเคราะห์ที่หลากหลายมุมมอง แต่ในบางครั้ง ไม่ใช่เพราะคำว่า
“สังคมสงเคราะห์”
และ
“สวัสดิการสังคม
” หรอที่เข้ามามีบทบาทและความสัมพันธ์ในยามฉุกเฉินหรือยามยากของพวกคุณเช่น การเข้ารับการรักษาพยาบาลในยามฉุกเฉินที่รัฐเข้ามาช่วยเหลือและอุดหนุนเพราะอย่างน้อยที่สุด คุณต้องได้รับการรักษาพยาบาลในยามฉุกเฉินเพื่อให้คุณมีชีวิตรอดและทำประโยชน์ให้กับคนในสังคม หรือ เงินสงเคราะห์ฉุกเฉินที่เข้ามาช่วยเหลือในยามที่คุณประสบปัญหาเช่น การถูกทอดทิ้ง การประสบเหตุที่ไม่คาดคิด เพราะเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่า
“อะไรจะเข้ามาและผ่านไปในชีวิต”
จากภาพนี้ พี่ต้องการขยายความให้คุณผู้อ่านได้มองเห็นอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นในเรื่องเกี่ยวกับสวัสดิการที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน ลองทบทวนตนเองหรือถามคนใกล้ชิดของคุณว่า
“
สิ่งเหล่านี้รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินคือสิ่งที่เข้ามาสนับสนุนคุณภาพชีวิตหรือไม่
”
แม้จะต้องแลกด้วยเงื่อนไขต่างๆเช่น ภาษี ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ฯลฯ แต่อย่างน้อยการมีสวัสดิการหรือสิทธิ์ต่างๆที่ได้รับการคุ้มครองและสนับสนุนคุณภาพชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่สามารถตอบโจทย์พื้นฐานที่อย่างน้อยคุณควรได้ “ความเหมาะสม ความปลอดภัย และ ความเท่าเทียม” แม้ปัจจุบันรูปแบบบริการต่างๆที่มีในสวัสดิการคุณสามารถที่จะเลือกได้ตามฐานะทางเศรษฐกิจ แต่อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้คือ สวัสดิการสังคมเปรียบเสมือน
“
กำแพง
”
ที่รอให้คนมาพึ่งพิงทั้งยามสุขและยามทุกข์และเปรียบเหมือน
“
เพื่อนแท้
”
ที่เคียงข้างคุณได้เสมอ
กล่าวโดยสรุปแล้วงานสังคมสงเคราะห์เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของผู้คน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานภาพทางสังคมแบบใด สิทธิ สวัสดิการ และ ความช่วยเหลือพร้อมที่จะส่งต่อและเคียงข้างคุณเสมอ ภายใต้เงื่อนไขทั้งสถาบันทางสังคม โครงสร้าง และ กฎหมายที่เกี่ยวข้องแม้ว่าคุณจะต้องทำหน้าที่ของตนเองตามบทบาท แต่อย่างน้อยคุณต้องมีอะไรที่เข้ามาเป็น “กำแพง” เพื่อให้คุณพึ่งพิงและมีความมั่นคงทั้งยามสุขและยามทุกข์ และอาจกล่าวได้ว่า นักสังคมสงเคราะห์ หรือ คนที่ทำงานด้านสังคมสงเคราะห์ไม่ว่าจะสาขาอาชีพใดก็ตาม พร้อมที่จะเข้าใจ ปรับตัว และ เคียงข้างเพื่อให้คุณสามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขและมีหลักประกันภายใต้ความเป็นพลเมืองและพลโลกของตนอย่างเป็นรูปธรรม
พบกันใหม่ตอนหน้า
….
สวัสดีครับ
P’Jun
ผู้ก่อตั้งเพจสรุปสังคม ม
.
ปลาย
4.0 By P’Jun
Social Quick : สรุป…รวดเร็ว และ เชื่อมโยงกับวิชาสังคมศึกษา
SocWork Package : เตรียมพร้อมสู่สังคมสงเคราะห์ …เจาะลึกและเข้าใจตัวตน
Pre - SocWork ปลดล็อคความเข้าใจ “สังคมสงเคราะห์”
P’Jun Teach Series (จากความรู้ในเพจ...สู่การวิเคราะห์และเห็นภาพวิชาสังคมแบบง่ายๆ)
22,442
คอร์สที่ 1 หมอ
ครบทุกพาร์ท
" ติวเน้นวิชาเฉพาะแพทย์ เจาะเนื้อหา + เจาะข้อสอบ "
ราคาพิเศษเพียง 9,000.-
ฟรี!!หนังสือประกอบการเรียน
เรียนไม่จำกัดครั้ง 1 ปีเต็ม
(ปกติ 49,000.-)
SUPER VIP สูตรสำเร็จสอบติดหมอ
"ครบทุกเรื่องที่ หมอ ต้องใช้สอบ"
โบนัสพิเศษ คอร์สติวเน้นวิธีคิดเพื่อสอบติดหมอ
ลด 80%
เหลือ 20,900.-
(ปกติ 99,000 บาท)
ติวเจาะ ลุยข้อสอบ A-Level 5 ปีย้อนหลัง
บูสต์คะแนน 70 UP
กับเคล็ดลับเพิ่มคะแนน A-Level แบบฉุดไม่อยู่
ลด 80%
เหลือ 8,900.-
(ปกติ 16,700 บาท)
รับจำนวนจำกัด
มารู้จักวิศวกรรมสาขาต่าง ๆกันเถอะ (ภาค 1)
สรุปคะแนนสอบรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า “เซลล์” 2
อ่านสังคมอย่างไร…ให้มีความสุข (?)
เคมี A-Level 70+ ชุดที่ 1 ใช้เก็บ 40 - 50 คะแนน
สรุปภาพรวม + โค้งสุดท้ายการเตรียมตัวสอบวิชาเฉพาะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์
แจกตารางอ่านหนังสือ สำหรับเตรียมตัวสอบของเด็กสายแพทย์
#DEK66 อยากเข้าคณะไหน? แต่ละคณะใช้วิชาอะไรบ้าง? ไปดูกัน
มีคะแนน SAT สอบติดง่าย ๆ ได้แต่เนิ่น ๆ
รอบพอร์ต #DEK66 เอกสารรอบนี้ ต้องเตรียมอะไรบ้าง
×
Close